Skip to Content

ทฤษฎีแรงจูงใจของ McClelland

ทฤษฎีแรงจูงใจของ McClelland (McClelland’s Theory of Needs) เป็นอีกแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการบริหารคน โดยเฉพาะในด้าน การมอบหมายงาน, การพัฒนาผู้นำ, และ การวางแผนแรงจูงใจรายบุคคล

🧠 ทฤษฎีแรงจูงใจของ McClelland: “ทฤษฎีสามแรงจูงใจหลัก”

McClelland เชื่อว่า คนเรามีแรงจูงใจหลักอยู่ 3 ด้าน ซึ่งแต่ละคนจะมีแรงผลักดันต่างกัน และสามารถใช้ความเข้าใจนี้ในการบริหารคนได้อย่างตรงจุด:

แรงจูงใจ ความหมาย ลักษณะของบุคคล แนวทางการบริหาร
🥇 Need for Achievement (nAch)ความต้องการประสบความสำเร็จ ต้องการเอาชนะเป้าหมาย ท้าทายตัวเอง - มุ่งผลลัพธ์- ชอบทำงานยากพอดี (ไม่ง่าย/ไม่ยากเกินไป)- ทำงานได้ดีลำพัง - มอบหมาย งานที่วัดผลได้ชัดเจน- ตั้งเป้าหมายที่ท้าทาย- ให้ Feedback บ่อย ๆ
🧑‍🤝‍🧑 Need for Affiliation (nAff)ความต้องการเป็นที่รักและยอมรับ อยากมีความสัมพันธ์ที่ดี ต้องการการยอมรับ - ทำงานเป็นทีมได้ดี- หลีกเลี่ยงความขัดแย้ง- ไม่ชอบการแข่งขัน - มอบหมาย งานที่ทำเป็นกลุ่ม- สร้างสภาพแวดล้อมที่อบอุ่น- ส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่เป็นมิตร
👑 Need for Power (nPow)ความต้องการอำนาจและอิทธิพล ต้องการมีอิทธิพลหรือควบคุมผู้อื่น - ชอบเป็นผู้นำ- มีความมั่นใจ- สนใจเรื่องสถานะและบทบาท - ให้ บทบาทผู้นำ / หน้าที่บริหารทีม- สร้างโอกาสให้ควบคุมหรือจัดการโครงการ- ให้ความรับผิดชอบเพิ่มขึ้นตามลำดับ

✅ วิธีนำไปใช้จริงในการบริหารคน

  1. ประเมินแรงจูงใจหลักของพนักงานแต่ละคน
    • ผ่านการสังเกตพฤติกรรม หรือแบบประเมิน
    • เช่น คนที่ชอบแข่งกับตัวเอง มักจะมี Need for Achievement สูง
  2. มอบหมายงานให้ตรงกับแรงจูงใจ
    • nAch: งานวิเคราะห์, การตั้ง KPI ที่ท้าทาย
    • nAff: งาน HR, งานลูกค้าสัมพันธ์
    • nPow: ตำแหน่งหัวหน้าโครงการ, การเจรจาต่อรอง
  3. ออกแบบระบบจูงใจแบบเฉพาะบุคคล
    • บางคนไม่ได้ต้องการโบนัสเยอะ แต่อยากมีบทบาทนำ
    • บางคนทำงานหนัก เพราะอยากได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมทีม

📌 สรุป

ทฤษฎี McClelland ช่วยให้ผู้บริหารเข้าใจว่า “แรงจูงใจไม่เหมือนกันทุกคน” และควร บริหารแบบเฉพาะบุคคล (individualized management) เพื่อดึงศักยภาพของแต่ละคนออกมาให้มากที่สุด

in HRM
Sign in to leave a comment
ทฤษฎีแรงจูงใจของ Maslow