วิธีการเขียน Job Description (JD)
การเขียน Job Description มีโครงสร้างพื้นฐานดังนี้:
1. ตำแหน่งงาน (Job Title):
ชื่อชัดเจนที่สะท้อนถึงตำแหน่งงาน เช่น "ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR Manager)"
2. สรุปหน้าที่งาน (Job Summary):
สรุปบทบาทและความรับผิดชอบหลักในตำแหน่งงานโดยย่อ
3. หน้าที่และความรับผิดชอบ (Responsibilities & Duties):
ลิสต์หน้าที่งานอย่างละเอียด เน้นการใช้คำกริยาที่กระชับ เช่น "วางแผน", "จัดการ", "พัฒนา"
4. คุณสมบัติที่ต้องการ (Qualifications):
ระบุความรู้ ทักษะ และคุณสมบัติที่จำเป็น เช่น การศึกษา ประสบการณ์ ความสามารถพิเศษ
5. คุณสมบัติเพิ่มเติม (Preferred Qualifications):
คุณสมบัติที่ไม่จำเป็นแต่จะพิจารณาเป็นพิเศษ
6. สถานที่ทำงาน (Work Location):
ระบุสถานที่ทำงาน เช่น สำนักงาน หรือการทำงานแบบ Remote
7. สวัสดิการ (Benefits):
- ระบุสิทธิประโยชน์ เช่น โบนัส ประกันสุขภาพ วันหยุด เป็นต้น
ตัวอย่าง Job Description: ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล
ตำแหน่งงาน:
ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR Manager)
สรุปหน้าที่งาน:
ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลรับผิดชอบในการพัฒนากลยุทธ์ด้านทรัพยากรบุคคล การบริหารงานบุคคล การวางแผนกำลังคน และสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีประสิทธิภาพ เพื่อสนับสนุนเป้าหมายขององค์กร
หน้าที่และความรับผิดชอบ:
- วางแผนและดำเนินกลยุทธ์ด้านทรัพยากรบุคคลเพื่อสนับสนุนเป้าหมายองค์กร
- จัดทำแผนกำลังคน การสรรหา และการคัดเลือกพนักงาน
- พัฒนาและปรับปรุงโครงสร้างเงินเดือนและสวัสดิการ
- กำกับดูแลระบบการประเมินผลงานและการพัฒนาทักษะของพนักงาน
- จัดการข้อพิพาทระหว่างพนักงานและให้คำปรึกษาด้านแรงงาน
- ตรวจสอบและปรับปรุงนโยบายทรัพยากรบุคคลให้สอดคล้องกับกฎหมายแรงงาน
คุณสมบัติที่ต้องการ:
- ปริญญาตรีหรือโทในสาขาทรัพยากรบุคคล การบริหารธุรกิจ หรือสาขาที่เกี่ยวข้อง
- ประสบการณ์ทำงานด้านทรัพยากรบุคคลอย่างน้อย 5 ปี
- มีความรู้เกี่ยวกับกฎหมายแรงงานและการบริหารทรัพยากรบุคคล
- ทักษะการเป็นผู้นำและการบริหารทีม
- ทักษะการสื่อสารและการแก้ไขปัญหาที่ดี
คุณสมบัติเพิ่มเติม:
- ความสามารถในการใช้โปรแกรม HRIS (Human Resource Information System)
- มีประสบการณ์ในองค์กรที่มีพนักงานมากกว่า 100 คน
สถานที่ทำงาน:
สำนักงานใหญ่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
สวัสดิการ:
- โบนัสตามผลงาน
- ประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุ
- วันหยุดพักร้อน 15 วัน/ปี